หลวงพ่อสมปรารถนา เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง๑๐๙นิ้ว ได้มาประดิษฐาน วัดโขดหินเมื่อปีพุทธศักราช2554 ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่ประเทศไทยเกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศ  โดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีคุณสาธิกา ทององอาจ  เป็นผู้นำมาถวาย ซึ่งคุณสาธิกาได้เล่าให้ฟังว่า พระพุทธะรูปองค์นี้ตั้งประดิษฐานเป็นที่กราบไหว้อยู่ที่โรงงานหล่อพระริมแม่น้ำแถวอยุธยา ซึ่งน้ำกำลังจะท่วม  เพราะแถวบริเวณนั้นได้โดนน้ำท่วมไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่โรงงานหล่อพระนี้เท่านั้น  โยมสาธิกาเห็นแล้วเกิดศรัทธาในพระ เลยขอซื้อจากโรงงาน แล้วตั้งใจจะนำมาถวายวัดแถวภาคตะวันออก  ประจวบเหมาะกับคุณสาธิกาเองก็ประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าเห็ดขายที่ปากคลองตลาดซึ่งน้ำกำลังจะท่วมเหมือนกัน จึงต้องการขนย้ายอุปกรณ์ในร้านเพื่อหนีน้ำ จึงติดต่อหาซื้อรถหกล้อมือ2 จึงได้ติดต่อมาทางคุณเล็ก เนินคีรี ด้วยอุปนิสัยแม่ค้าจึงพูดคุยกันถูกคอ และได้สอบถามคุณเล็กบอกความประสงค์ของตนเองว่า   "มีวัดไหนต้องการพระพุทธรูปไหม? ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง๑๐๙นิ้ว" คุณเล็ก ก็บอกเขาไปว่ารู้จักเจ้าอาวาสรูปหนึ่งท่านพึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดโขดหิน ไม่ทราบว่าท่านจะสนใจไหม?เลยได้บอกเบอร์เจ้าอาวาสให้โยมสาธิกาไป และคุณโยมสาธิกาด้วยจิตที่เกิดปีติก็รีบโทรหา พระมหานักรบ อคฺคธมฺโม เจ้าอาวาสวัดโขดหิน ในเวลาประมาณ 3ทุ่มได้แนะนำตัว และได้คุยรายละเอียดต่างๆ  ส่วนพระมหานักรบเจ้าอาวาส ก็เกิดนิมิต,เกิดปีติขึ้น เพราะมีความประสงค์อยากได้พระพุทธรูปปางสมาธิมาประดิษฐานที่ลานธรรมอยู่แล้ว ซึ่งลานธรรมนี้( ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิหารหลวงพ่อ) เป็นที่ตั้งเมรุลอยเผาสรีระสังขารหลวงพ่อปื๊ด(อดีตเจ้าอาวาสวัดโขดหิน) ท่านพระมหานักรบ ไม่อยากให้ใช้พื้นที่ลานธรรมไปทำอย่างอื่นและอยากสร้างอนุสรณ์ระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อปื๊ด จึงอยากทำเป็นลานธรรม และต้องการนำพระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งประดิษฐานอยู่ที่หอสวดมนต์กุฎิของหลวงพ่อมาประดิษฐานที่ลานธรรม แต่เมื่อโยมทราบก็ได้คัดค้านว่าพระพุทธรูปองค์นี้เขาตั้งใจถวายมาเพื่อประดิษฐานที่หอสวดมนต์ไม่ควรนำลงไปตั้งกลางแจ้ง  ท่านพระมหานักรบก็เห็นด้วย แต่ก็คิดไม่ตกว่าจะนำพระพุทธรูปปางสมาธิมาจากไหน  ท่านก็เลยตั้งจิตอธิษฐาน หลังจากนั้นวันที่3(หลังจากวันอธิษฐาน)เวลา3ทุ่มก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณสาธิกา บอกจะนำพระพุทธรูปปางสมาธิมาถวาย ก็เลยเกิดปีติ อัศจรรย์ใจ เพราะได้สความปรารถนาทั้ง2ฝ่ายคือคุณโยมสาธิกาก็ตั้งใจนำมาถวายและสมประสงค์ พระมหานักรบก็อธิษฐานอยากได้และสมประสงค์  พระมหานักรบก็เลยตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ ฉับพลันเดี๋ยวนั้นว่า"พระพุทธะสิทธัตถะ ซึ่งเป็นชื่อของพระพุทธเจ้าของเรามีพรามหณ์108รูปประชุมตั้งให้ครั้งเมื่อประสูติได้5วัน ซึ่งแปลได้ว่า"สมปรารถนา" และชื่อโยมสาธิกาผู้ถวาย ก็แปลว่าประสบผลสำเร็จ เหมือนกัน 
เรื่องเล่าอภินิหารความอัศจรรย์ที่หลายท่านประสบ(พอสังเขป)
เล่าว่าหลังจากได้ขนย้าย หลวงพ่อสมปรารถนาออกจากโรงหล่อ  น้ำก็ได้ท่วมโรงหล่อและบริเวณนั้นโดยฉับพลัน
เมื่อครั้งหลวงพ่อมาวัดโขดหินแรกๆ ยังไม่ได้เชิญไปประดิษฐานที่วิหารในปัจจุบันเพราะยังไม่ได้สร้าง มีโยมแวะเวียนเอาเงินมาถวาย(กองที่หน้าตักองค์พระ) ตอนนั้นทางวัดยังไม่ได้ตั้งตู้บริจาค มีแม่ชีหรือโยมวัดไปเก็บทำความสะอาดและนำเงินมาถวายบ่อยๆและครั้งละมากๆ
วิหารที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อสมปรารถนานั้น ล้วนได้มาจากเงินที่โยมนำมาถวายเจาะจงคือ นำมากองให้บ้างใส่ตู้บ้าง
มีวันหนึ่งพระมหานักรบ ไปขอต้นไม้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ระยอง เจ้าหน้าที่พอรู้ว่ามาจากวัดโขดหิน ก็เล่าอภินิหารให้ฟัง ทั้งเรื่องได้เลขหวย และขอพรอื่นๆและได้สมปรารถนาของตน
ส่วนมากสิ่งที่ขอและให้ผลสมปรารถนาทันตาคือเรื่องเรียน,เรื่องงาน,สุขภาพเป็นต้น